วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554

กากี

ท้าวพรหมทัตกษัตริย์แห่งนครพาราณสีมีพระมเหสีรูปงามกลิ่นกายหอม   ชื่อว่านาง
       กากีพระองค์รักและหลงใหลนางกากี ไม่ให้มหาดเล็กคนสนิทที่เป็นชายเข้าใกล้หรือได้เห็น
       ยกเว้น  ที่จำเป็นเพียงไม่กี่คนเท่านั้น  หนึ่งในหนุ่มคนสนิทที่สามารถเข้าใกล้นางกากีได้ คือ
       “นาฏกุเวร”   ผู้เป็นคนธรรพ์รูปงาม   มีหน้าที่บรรเลงดนตรี  แต่งกลอน  ขับกล่อม    ให้แก่
       ท้าวพรหมทัต   ในยามที่พระองค์เล่นสกา    กีฬาโปรดปรานกับพระสหายสนิทตามปรกติ
       คนธรรพ์  เป็นกึ่งมนุษย์  กึ่งเทวดา       ที่มีความสามารถสูง        ยิ่งเป็นนาฏกุเวรผู้มีความ
       เปรื่องปราชญ์ก็ยิ่งเป็นที่รักใครไว้วางพระทัยของท้าวพรหมทัต
               นอกจากพระประยูรญาติที่ท้าวพรหมทัตโปรดให้เล่นสกาด้วยแล้ว  พระองค์มีสหาย
       สนิทผู้มีความลึกลับที่มีฝีมือการทอดสกา   เทียบเท่าพระองค์  นามว่าเวนไตย  เวนไตยเป็น
       พญาครุฑ  ที่มีวิมานชื่อ  ฉิมพลี  ตั้งอยู่ที่เชิงเขาพระสุเมรุเหนือดงงิ้ว  ผู้มีร่างมาเป็นมานพ
       รูปร่างสง่างามในเมืองมนุษย์  เวนไตยไม่ยอมบอกว่าตัวเองมาจากที่ไหนแต่ก็มาเล่นสกากับ
       ท้าวพรหมทัตอย่างสม่ำเสมอทุกๆเจ็ดวัน
               คำร่ำลือถึงความสง่างามของพญาเวนไตย    จากสนมกำนัลมาเข้าหูนางกากี นางกากี
       ลองแอบดูครั้งหนึ่งก็พอดีกับเวนไตยมองมาทั้งคู่ต่างตื่นเต้นในความงามของกันและกันทำ
       ให้เวนไตยถึงกับทำอุบายลักพานางกากีไปจากท้าวพรหมทัต    โดยการจำแลงตัวเป็นพญา
       ครุฑบินไปบังแสงอาทิตย์ที่ส่องเมืองพาราณสี  ทำให้เมืองมืดมิดและอลหม่านจากการเกิด
       พายุใหญ่กระหน่ำ เวนไตยฉวยโอกาสนี้พาตัวนางกากี ไปสมสู่ ณ  วิมานฉิมพลี   เนื่องจาก
       นางกากีก็พึงพอใจเวนไตย เมื่อยามเป็นชายหนุ่มรูปร่างสง่างามในวิมานฉิมพลี
               ท้าวเทวทัตเป็นทุกข์ระทมเมื่อนางกากีมเหสีสุดสวาทได้หายไปไม่สามารถตามหาได้
       นาฏกุเวร  ผู้แอบหลงรักในรูป  และกลิ่นกาย  ของนางกากีอาสานำตัวนางกากีกลับ  เพราะรู้
       ระแคะระคาย  เนื่องจากเหตุการณ์ในวันที่เวนไตย  สบตากับนางกากีไม่พ้นจากสายตาของ
       คนธรรพ์หนุ่มนี้ไปได้   นาฏกุเวร  ได้ผูกกลอนขับกล่อมขณะที่เวนไตยเล่นสกากับ        ท้าว
       พรหมทัตจนสังเกตความผิดปรกติของเวนไตยได้  เมื่อท้าวพรหมทัตทรงอนุญาต การเล่น
       สกาครั้งต่อมา  นาฏกุเวรจึงแปลงร่างเป็นตัวไรเกาะปีกเวนไตย  เมื่อเขากลายเป็นพญาครุฑ
       ตามไปถึงวิมานฉิมพลี เมื่อเวนไตยออกไปปฏิบัติภารกิจนอกวิมานก็คืนร่างเป็นนาฏกุเวรคน
       เดิม ด้วยความเสน่หาที่มีต่อนางกากี  นาฏกุเวรก็ขอร่วมอภิรมย์สมสู่กับนางกากีโดยขู่ว่าจะ
       ไม่เปิดเผยความลับ ระหว่างเวนไตยกับนาง  นางกากีเห็นว่า  นาฏกุเวรเปิดเผยว่ารักใคร่ตัว
       นางมาก่อน ก็ยอมสมสู่ด้วย
               เมื่อถึงกำหนดนัดเล่นสกากับท้าวพรหมทัต  นาฏกุเวรก็จำแลงเป็นตัวไร   เกาะปีพญา
       ครุฑ  เวนไตยกลับเมืองพาราณสี   และได้กราบทูลให้ท้าวพรหมทัต  ทำเป็นไม่ทราบเรื่อง 
       ระหว่างการเล่นสกา  นาฏกุเวรก็แต่งกลอนยั่วยุให้เวนไตยโกรธ โดยพรรณาถึงรายละเอียด
       ทุกอย่างที่นางกากีมีแสดงว่า  นาฏกุเวรได้ร่วมอภิรมย์รัก  โดยนางกากีก็สมัครใจ   เวนไตย
       โกรธมากที่นางกากีทรยศต่อตัวเองเมื่อกลับไปก็คาดคั้นเอาความจริงกับนางกากีแต่นางกากี
       ยอมรับตอนหลัง  อ้างว่าถูกบังคับ ซึ่งเวนไตยไม่เชื่อ  และส่งนางกากีกลับคืนเมืองพาราณสี
       ท้าวพรหมทัตทั้งรักทั้งแค้นทั้งอับอายทรงตัดเยื่อใยนางกากีและสั่งให้มหาดเล็กนำไปลอย
       แพในมหาสมุทร
               นางกากี  ต้องเผชิญเคราะห์กรรม  อย่างแสนสาหัส      เมื่อนายสำเภามาพบนางสลบ
       ไสลบนแพ  เรือนร่างที่สวยงาม ย่อมเป็นที่หมายปองของนายสำเภา  เขาจึงได้นางกากีเป็น
       ภรรยา ต่อมาโจรสลัดได้ปล้นเรือนายสำเภาและหัวหน้าโจรบังคับนางกากีให้เป็นภรรยาอีก
       ท่ามกลางความอิจฉาริษยา  ของสมุนโจร เพราะหัวหน้าโจร ไม่ยอมแบ่งผู้หญิงให้เหมือน
       รายอื่นๆ
               ในที่สุดก็เกิดการแก่งแย่งนางกากีกันในหมู่โจรถึงกับฆ่าฟันกันเองนางกากีฉวยโอกาส
       หลบหนีพวกโจรได้แต่ต้องเผชิญกับความโหดร้ายในป่าจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดโชคดียัง
       เป็นของนางกากีที่บังเอิญมีกษัตริย์ชรานามว่า   ท้าวทศวงศ์   ผู้เป็นหม้ายแห่งเมืองไพศาล
ี       เสด็จมาเที่ยวป่าได้นำนางกากีไปชุบเลี้ยงเป็นถึงมเหสี
               นางกากีไม่บอกความจริงให้ท้าวทศวงศ์ เพราะกลัวความไม่ดีของตน   จะทำให้ท้าว
       ทศวงศ์ไม่รับอุปการะ จิตใจของนางยังไม่เป็นสุข ถึงจะได้เป็นถึงมเหสี    แต่ท้าวทศวงศ์ก็
       ทรงโปรดปรานมเหสีร่างงามและกลิ่นกายหอม
               ตั้งแต่ท้าวพรหมทัตลอยแพ   นางกากีไป   ก็ไม่มีความสุขกลับต้องระทมทุกข์  ถึงกับ
       ประชวรและสวรรคตในเวลาต่อมา เนื่องจากพระองค์ไม่มีทายาทข้าราชบริพารจึงได้เลือก
       ผู้ที่เป็นที่รักใคร่ของประชาชน   และมีปัญญาเฉียบแหลม   ขึ้นครองราชย์แทน   นาฏกุเวร
       ได้รับเลือกเป็กษัตริย์ แทนท้าวพรหมทัต คนธรรพ์หนุ่มผู้เป็นกษัตริย์  ก็ยังรักอาลัยนางกากี
       อยู่ได้สืบจนทราบว่านางกากีได้เป็นมเหสีของท้าวทศวงศ์ นาฏกุเวรจึงส่งสารทวงนางกากี 
       ในฐานะที่เคยเป็นมเหสีของกษัตริย์เมืองพาราณสีมาก่อน แต่เมืองไพศาลีไม่ยอม จึงได้เกิด
       สงครามระหว่างสองเมืองในที่สุดนาฏกุเวรก็ยึดเมืองไพศาลีได้ และรับนางกากีกลับมาเป็น
       มเหสีสมใจปรารถนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น